
ใน
ค.ศ. 1660 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงอภิเษกกับองค์หญิงมาเรีย เธเรซา พระธิดาของ
พระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งสเปน ซึ่งพระเจ้าฟิลิปก็ป้องกันการอ้างสิทธิของฝรั่งเศสโดยการให้องค์หญิงมาเรียเธเรซาสละสิทธิ์ในดินแดนของสเปนทุกส่วน โดยมีสินสอด (ฝ่ายหญิงให้ฝ่ายชาย) จำนวนมหาศาลเป็นค่าตอบแทน ใน
ค.ศ. 1661 พระเจ้าหลุยส์ทรงแต่งตั้งให้
ชอง-บาพ์ติสต์ โกลแบร์ต(Jean-Baptiste Colbert) เป็นเสนาบดีคลัง โกลแบร์ตสามารกอบกู้สถานะทางการเงินของฝรั่งเศสที่ใกล้จะล้มละลาย โดยการเก็บภาษีแบบใหม่ ทำให้เงินในพระคลังเพิ่มเป็นสามเท่า เป็นที่มาของความฟุ่มเฟือยในราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ที่แวร์ซาย

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ยังทรงพระเยาว์จนต้องมีผู้สำเร็จราชการแทนหลายคน เริ่มที่
ดยุคแห่งออร์เลียงส์ เข้าร่วม
สงครามจตุรมิตร (War of the Quadraple Alliance - ประกอบด้วยฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ - ไม่เกี่ยวกับสี่โรงเรียน)เมื่อพระเจ้าฟิลิปที่ 5 แห่งสเปนและราชินี
อลิซาเบธ ฟาร์เนสที่ทะเยอทะยาน ต้องการกอบกู้ดินแดนในอิตาลีและประเทศภาคต่ำที่เสียไปในสงครามสืบราชสมบัติสเปน ผลคือความพ่ายแพ้ของสเปน ต่อมา
คาร์ดินัล เฟลอรี (Cardinal Fleury) ทำ
สงครามสืบราชสมบัติโปแลนด์ (War of the Polish Succession)
สตานิสลาส เลสเซนสกี ต้องการเป็นกษัตริย์แห่ง
โปแลนด์ แต่จักรพรรดิโรมันฯต่อต้าน ฝรั่งเศสเห็นโอกาสที่จะทำลายอำนาจออสเตรีย จึงทำสงคราม แต่สนธิสัญญาเวียนนาใน
ค.ศ. 1735 เลสเซนสกีได้เป็นดยุคแห่งลอร์เรน ซึ่งเมื่อเลสเซนสกีเสียชีวิตใน
ค.ศ. 1766 แคว้นลอร์เรนจึงตกเป้นของฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสมีอาณาเขตถึงปัจจุบัน

ความฟุ่มเฟือยของราชสำนักและสงครามที่พ่ายแพ้ทำให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสตกต่ำลง พระคลังเป็นหนี้ทั่วยุโรป
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 จึงทรงแต่งตั้งผู้ที่มีความสามารถเพื่อกอบกู้สถานการณ์ เช่น
ตูร์โกต์ ซึ่งพยายามจะเก็บภาษีแบบใหม่ๆ แต่ประชาชนถูกเก็บภาษีหลายประเภทแล้ว เลยพากันฐานะยากจนกันไปหมด จึงเห็บภาษีจากสินค้าต่างๆแทน แต่บรรดาขุนนางอ้างว่ากษัตริย์ไม่ทรงมีพระราชอำนาจที่จะตั้งภาษีใหม่ แต่เป็นสภาฐานันดร (Estates-General) ต่างหาก พระเจ้าหลุยส์ทรงเห้นว่าตูร์โกต์ใช้ไม่ได้ แลยตั้ง
เนคแกร์ขึ้นมาแทนใน
ค.ศ. 1776 พอดีกับอาณานิคมของบริเทนในอเมริกาประกาศเอกราชใน
สงครามปฏิวัติอเมริกา เนคแกร์ให้สนับสนุนฝ่ายอเมริกาโดยส่ง
มาร์ควิสแห่งลาฟาแยตไปช่วย จนฝ่าย
อเมริกามาประกาศเอกราชที่ปารีสใน
ค.ศ. 1783
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น